เมื่อร่างกายขาดสารอาหาร และรักษาด้วยอาหาร
เมืองไทยมีอาหารอุดมสมบูรณ์ แต่ทำไมยังมีคนเป็นโรคขาดสารอาหารกันอยู่?
สารอาหาร เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ต่อสุขภาพ การขาดสารอาหาร ตัวใดตัวหนึ่งเป็นเวลานาน
จะทำให้ร่างกาย เกิดอาการผิดปกติ วิธีแก้ไข อาจไม่ต้องใช้ยา แต่ปรับเปลี่ยนอาหารการกินให้ถูกต้อง
ให้ได้สารอาหารครบถ้วน เท่าที่ร่างกายต้องการ ความผิดปกติเหล่านั้นจะหายไปเอง
คนส่วนใหญ่ เป็นโรคขาดวิตามินมากกว่าโปรตีน
จึงควรเพิ่มผักและผลไม้มากขึ้น กินหลากหลายอย่าจำเจ เฉพาะอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง
อาการ | สารอาหารที่ขาด | อาหารที่ต้องกิน |
เพลีย หน้าซีด เล็บเปลี่ยนสี | ธาตุเหล็ก | เนื้อสัตว์ ผักใบเขียวเข้ม |
ปวดข้อต่อ ฟันผุ เป็นตะคริว | แคลเซียม | ผักใบเขียว นมสด ถั่ว ปลาตัวเล็กกินทั่วตัว |
กล้ามเนื้ออ่อนแอ ตัวสั่น | โฟแทสเซียม | กล้วยหอม ส้ม ผักใบเขียว |
เบื่ออาหาร แผลหายช้า | ธาตุสังกะสี วิตามินซี | อาหารทะเล ไข่ ผลไม้เปรี้ยว |
ริมฝีปากแตก ลิ้นเจ็บ | วิตามิน บี 2 | ข้าวกล้อง ตับ ไข่ นมสด |
เพลีย เกิดแผลตามตัวง่าย | กรดโฟลิค | ถั่ว ผักใบเขียว ตับ น้ำส้มสด |
สิวเห่อ | ธาตุสังกะสี วิตามินเอ | ปลาทะเล ผักใบเขียว แครอท |
ภาวะ โลหิตจาง | ธาตุเหล็ก วิตามินบีและซี | ข้าวกล้อง ผักใบเขียวเข้ม ถั่ว ผลไม้รสเปรี้ยว บล็อกโคลี่ |
ปวดกระดูก ข้อต่ออักเสบ | กรดโอเมก้า 3 | ปลาทะเลน้ำลึก ปลาซาบะ ปลาแซลมอน |
ขี้ลืม จิตใจหดหู่ | วิตามินบี บี6 บี12 | ข้าวแดง ข้าวกล้อง ผักใบเขียว เมล็ดทานตะวัน องุ่นถั่วผลไม้ |
อาการชาตามนิ้วมือ นิ้วเท้า | วิตามิน บี | ผักใบเขียว ข้าวกล้อง |
เครียดจัด เป็นประจำ | โฟแทสเซียม แคลเซียม อาหารมีกาก | กล้วยหอม นมสด และระวังอย่าให้ท้องผูก |
ปรับสายตาช้าในที่มืด | เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ | ผักบุ้ง ฟักทอง แครอท |
หัวใจเต้น ไม่สม่ำเสมอ | แมกเนเซียม โฟแทสเซียม | กล้วยหอม ส้มสด เมล็ดทานตะวัน ถั่วหิมพานต์ |
ผิวแห้ง แตกขุยทุกฤดูกาล | วิตามิน เอ | ผักตำลึง ฟักทอง แครอท |
ผมแห้ง แตกปลาย | ธาตุเหล็ก ธาตุไอโอดีน โปรตีน | อาหารทะเล สาหร่าย ถั่ว ผัก |
กระดูกเปราะบาง แตกง่าย | แคลเซียม วิตามิน ดี | ถั่ว ผักใบเขียว แสงแดด |
แนวทางการปรับปรุงอาหารการกิน โดยไม่ต้องพึ่งอาหารสูตรพิเศษ
คนส่วนใหญ่ ติดนิสัยกินอาหาร แบบซ้ำๆเดิมๆ เคยชินกินอะไร ก็กินอย่างนั้น ไม่เคยเปลี่ยน
หรือ ปรับปรุงอาหารที่กินให้มีคุณภาพดีขึ้น ทั้งรู้ (หรือไม่รู้?)
ว่า ถ้าไม่รู้จักกินอาหาร ให้หลากหลายมากพอแล้ว โอกาสที่จะเจ็บป่วย ก็มีมากขึ้น
ปัจจุบัน มีผู้คนเจ็บป่วย ด้วยโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย (เช่น โรคหัวใจ โรคความดันในเลือดสูง)
มากกว่าโรคที่เกิดจากเชื้อโรคโดยตรง
การกินเพียงเพื่อให้ท้องอิ่ม อาจไม่เพียงพอต่อร่างกาย
ที่ต้องการอะไรที่มากไปกว่า ข้าวราดแกงไก่ ไข่ดาว ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ เส้นใหญ่ต้มยำ ขนมจีบ ซาละเปา ฮะเก๋า ลูกชิ้นทอด ตบท้ายด้วยน้ำอัดลมอีกหนึ่งขวด แน่นท้องกำลังดี
อาหารเหล่านี้กินต่อเนื่องเป็นเวลานาน รับรองว่าอีกไม่ช้านานก็เห็นผล
ร่างกายจะเจ็บป่วยเป็นนู้นนี้ เรื้อรัง เป็นโรคความดัน เบาหวาน ไขมันสูง เป็นหวัดง่าย อ่อนเพลียหมดแรงไปเลย
หลายคนอาจคิดว่า กินเพื่อสุขภาพ เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก สำหรับผู้ทำงานนอกบ้าน
แต่ความจริง กินเพื่อสุขภาพกลับเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก
ถ้ารู้และเข้าใจเลือกชนิดอาหาร สัดส่วนและปริมาณ อย่าปล่อยให้สุขภาพเป็นเรื่องของตากับลิ้นเท่านั้น
อวัยวะอื่นของร่างกายก็มีสิทธิ์เรียกร้อง ความต้องการจากอาหารได้เท่าเทียมกันนะจ๊ะ
– กินไม่ต้องมาก แต่บ่อยครั้ง
อย่าปล่อยให้หิวโซจึงค่อยกิน เคี้ยวอาหารให้แหลกมากที่สุด
และอย่ากินขณะที่อารมณ์กำลังผันผวน เช่น โกรธจัด เครียด หรือ เศร้าโศกเสียใจ
– กินผัก ผลไม้มากขึ้นอีกหน่อย
ถ้าเป็นไปได้ เลือกแบบปลูกพื้นบ้าน ที่ใช้ปุ๋ยเคมี หรือ สารพิษกำจัดแมลงน้อยที่สุด
วันหนึ่งๆควร กินผักให้ได้สองถึงสามชนิดและผลไม้หนึ่งอย่าง
– กินโปรตีนให้มากเพียงพอ
ดีที่สุด คือโปรตีนจากเนื้อปลา ถั่วเหลือง เต้าหู้
รองลงมาคือ สัตว์ปีก แต่ต้องไม่กินหนัง ถ้าชอบกินเนื้อหมูหรือเนื้อวัว
ลดจำนวนครั้งให้เหลือแค่อาทิตย์ละหนหรือสองหนก็พอ และปริมาณไม่มากเกินกว่าหนี่งในสามของมื้ออาหาร
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น อาหารหลัก แป้ง ไขมัน โปรตีน ควรกินโปรตีนให้มากพอ ลดเเป้งและกินไขมันน้อยที่สุด
– เพิ่มปริมาณธัญพืช
เช่น กินข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ข้าวโอ๊ต หรือข้าวบาร์เล่ย์ บะหมี่ เส้นพาสต้า
จะดีกว่ากินข้าวขาวหรือเส้นก๋วยเตี๋ยวเพียงอย่างเดียว
– ลด เครื่องดื่ม กระตุ้นกำลังวังชา
น้ำชา กาแฟ น้ำตาล ช็อคโกแลต ไม่ควรกินมากไปในแต่ละวัน เพียงวันละหนึ่งถึงสองถ้วยก็พอ
ถ้าจะเปลี่ยนเป็นน้ำผลไม้สด(ไม่กระป๋อง)
ก็จะดียิ่งขึ้น เป็นการเพิ่มวิตามินให้กับร่างกาย
– เลี่ยงผลิตภัณฑ์ทำจากนม
บางคนอาจมีปัญหา เมื่อกินนมหรือผลิตภัณฑ์ที่มาจากนม เช่น
เนย อาจทำให้เป็นภูมิแพ้น้ำมูกมาก เป็นผื่นที่ผิวหรือท้องอืด
เด็กบางคน ที่ระบบภูมิต้านทานไม่แข็งแรงอาจทำให้เป็นโรคหืดหรือโรคภูมิแพ้ที่ผิว
วิธีแก้ปัญหาจึงเป็นการงดอาหารทำนมทุกชนิด
เปลี่ยนมากินน้ำนมถั่วเหลือง ก็เป็นการทดแทนสารอาหารที่จำเป็นได้ดี
– เปลี่ยนของว่าง เป็นผลไม้
ถ้าชอบขนมเค้ก ขนมหวาน ควรเปลี่ยนมาเป็นผลไม้สด ผลไม้แห้ง ถั่วคั่ว จะดีกว่า
ส่วนคนที่เป็นเบาหวาน อาจเปลี่ยนมาเตรียมถั่วอัลมอลด์ เมล็ดทานตะวัน หรือลูกเกด
ก็เป็นการช่วยในระยะยาว ได้ดีกว่าลูกกวาด ลูกอมยิ้ม
– ท้ายสุด อย่าลืมดื่มน้ำ
ให้พอเพียงกับความต้องการของร่างกาย แต่อย่ามากเกินไป
เพราะน้ำส่วนเกินจะถูกขับออกมา พร้อมๆกับแร่ธาตุที่สะสมในร่างกายซึ่งไม่ใช่สิ่งดี
ร่างกายต้องการน้ำเพื่อสร้างขบวนการเคมีในร่างกาย ถ้าไม่มีน้ำขบวนการเหล่านี้ก็ไม่เกิด
การขาดน้ำเป็นเวลานาน จึงจะทำให้ร่างกาย เกิดการขาดน้ำเป็นเวลานาน
จึงจะทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ ที่จะส่งผลเสียต่อการทำงาน
น้ำยังทำหน้าที่ล้างพิษและขจัดของเสียออกจากร่างกาย
จิบน้ำเป็นประจำทั้งวัน ดีกว่าดื่มคราวละมากๆ
ถ้ามีปัญหาท้องผูก ลองดื่มน้ำอุ่นจัดในตอนเช้า ก่อนอะไรทั้งหมด จะช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
Cr.สุขภาพผู้ชาย