อัลฟัลฟา (Alfalfa,Medicago sativa วงศ์ Fabaceae)
องค์ประกอบสำคัญ
มีสารอินทรีย์สำคัญหลายชนิด ได้แก่
-กรดอะมิโนจำเป็น ครบทั้ง 10 ชนิด โดยเฉพาะมี arginine สูง เมล็ดมีกรดอะมิโน L-canavanine ซึ่งเป็น arginine analouge
-คาร์โบไฮเดรต มีน้ำตาล arabinose, fructose, sucrose, xylose
-ไวตามิน A, C, E และ K สูง แต่ไวตามิน B1, B6 และ B12 ต่ำ
-สารเม็ดสี เช่น คลอโรฟิลล์ เบต้า-แคโรทีน และ anthocyanins
-กรดอินทรีย์หลายชนิด เช่น lauric, malic, malonic, myristic, oxalic, palmitic, quinic
-สาร isoflavonoiods เช่น coumestrol, สาร saponins, coumarins, steroids, coumarin, alkaloids
-อัลคาลอยด์ stachydrine และ I-homo-stachydrine และ steroid saponin เช่น soyasapogenols, medicagenic
ฤทธิ์ทางชีวภาพ
จากการศึกษาพบว่า อัลฟัลฟามีฤทธิ์ที่น่าสนใจ เช่น อัลคาลอยด์มีฤทธิ์ขับประจำเดือนและขับน้ำนม และ
-40g heat-treated alfalfa seed วันละ 3 ครั้ง รวม 8 อาทิตย์ ลดระดับคอเลสเตอรอลในผู้เป็น type II hyperlipoproteinemia ให้ลงสู่ระดับปกติได้
-สาร saponin และเส้นใย วมตัวกับ CL ในหลอดทดลอง
-สาร saponin จากราก ใบ และลำต้น ลด plasma-CL และการดูดซึม CL จากลำไส้สัตว์ทดลอง
-สาร saponin จากราก ลดคอเลสเตอรอลในเลือดลิง ซึ่งรับอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง
-แมงกานีสช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
-สาร medicagol สารซาโปนิน อาจไปรวมตัวกับสารสเตอรอลที่ผิวของเชื้อรา
-สาร medicago acid glycoside จากราก เป็นพิษต่อเชื้อราหลายชนิดอย่างแรง
-กรด medicagenic, hederagenic glycosides ยังยั้งเชื้อ C.albicans, Torulopsis candida
ประโยชน์ และรูปแบบที่ใช้
สารสกัด ใช้ในขนมอบ เครื่องดื่ม อาหารปรุงสำเร็จ
ใบและยอด เคยใช้ขับปัสสาวะ แก้อักเสบ แก้เบาหวาน แผลในกระเพาะ อาหารไม่ย่อย หอบหืด ปวดข้อ โรคไต กระเพาะปัสสาวะ
ปัจจุบันนิยมใช้เป็นแหล่งคลอโรฟิลล์ เบต้าแคโรทีน ไวตามิน E, K, V เกลือแร่และใยอาหารในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ ในขนาด 5-10 ก./วัน
ทางยา ใช้รักษาโรคเลือดไหลไม่หยุด ไขข้ออักเสบ
ใบอัลฟัลฟา ใช้เป็นวัตถุดิบในการสกัด L-Arginine ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่ง growth hormone ในคน
ข้อควรระวัง
แม้ไม่พบฤทธิ์ mutagenicity เมื่อทดสอบด้วย Salmonella strain TA 98 และ TA 100 แต่
-ฤทธิ์ oestrogenic จะรบกวนการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด หรือการรักษาด้วยฮอร์โมน
-canavanine ทำให้เกิดอาการคล้าย SLE ในลิงทดลอง จึงไม่ควรใช้ในผู้ที่มีประวัติเป็น SLE
-ไวตามิน K ขนาดสูงที่มีในอัลฟัลฟา อาจต้านฤทธิ์ของสารยับยั้งการแข็งตัวของเลือด
-สารซาโปนิน medicagenic acid ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกตัว และรบกวรการใช้ไวตามิน E
-ทั้งต้นทำให้เซลล์เยื่อบุผนังลำไส้เปลี่ยนแปลง อาจทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
-การบริโภคเมล็ด 80-160 ก./วัน อาจทำให้เกิด pancytopenia และ hypocomplementenemia ในคนปกติ
-สตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร ยังไม่ควรใช้